This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เจอร์รี่..ชายผู้มีทัศนคติเชิงบวก‏

เจอร์รี่เป็นผู้จัดการของร้านอาหารแห่งหนึ่งในอเมริกา> เขามักจะอารมณ์ดีอยู่เสมอและมักจะมีมุมมองต่อเหตุการณ์ต่างในแง่ดี>> เวลาที่มีใครถามเขาว่าเขาทำอย่างนั้นได้อย่างไร>> เขามักจะตอบว่า " ถ้าผมสามารถเป็นอะไรที่ดีกว่านี้ได้ ผมอยากจะมีฝาแฝด!">> พนักงานเสริ์ฟในร้านอาหารที่เขาทำงานอยู่หลายคนออกจากงาน > ไปพร้อมกับเจอร์รี่ เมื่อเขาย้ายงาน> เพื่อจะได้ติดตามเขาไปจากร้านหนึ่งไปยังอีกร้านหนึ่ง>> สาเหตุทั้งหมดก็มาจากการเป็นคนมองโลกในแง่ดีและทัศนคติของเจอร์รี่> เขาเป็นผู้ผลักดัน เป็นคนที่ให้กำลังใจผู้อื่นได้อย่างดีเยี่ยม>> ถ้ามีลูกน้องคนไหนเจอกับเรื่องแย่ๆมา เจอร์รี่จะอยู่กับเขาเสมอ> พร้อมทั้งแนะนำลูกน้องคนนั้น ให้ได้มองเห็นด้านดีๆหรือสิ่งที่เรา> สามารถเรียนรู้ได้จากเรื่องราวแย่ๆที่เกิดขึ้น>> ....วันหนึ่งฉันถามเจอร์รี่ว่า>> "ฉันไม่เข้าใจ! คนเราจะมองโลกในแง่ดีอยู่ตลอดเวลาได้ยังไง คุณทำได้ยังไงนะ">> เจอร์รี่ตอบว่า>> " ทุกๆเช้า ผมตื่นขึ้นมา พร้อมกับบอกตัวเองว่า ผมมีทางเลือกสองทางสำหรับวันนี้> ผมเลือกที่จะมีอารมณ์ดีตลอดทั้งวันก็ได้ > หรือจะมีอารมณ์เสียๆตลอดทั้งวันก็ได้เหมือนกัน> ซึ่งผมมักจะเลือกอารมณ์ดี>> บางครั้งก็มีเหตุการณ์แย่ๆเกิดขึ้น เราก็สามารถเลือกได้นี่นาว่า> เราจะเป็นเหยื่อของเหตุการณ์นั้น หรือว่าเลือกที่จะเรียนรู้มัน > ผมมักเลือกที่จะเรียนรู้> ทุกครั้งที่มีบางคนมาติมาบ่นอะไร > มีทางเลือกให้เราเลือกได้ว่าจะยอมรับเสียงเหล่านั้น> หรือว่าจะมองหาด้านดีของชีวิต ผมเลือกอย่างหลัง">> "แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ" ฉันแย้ง>> " ใช่ ไม่ง่ายเลย" เจอร์รี่กล่าว>> " ชีวิตล้วนเต็มไปด้วยทางเลือก> เมื่อคุณตัดสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกไปแล้ว > ทุกสถานการณ์ต่างก็มีทางเลือกของมัน> คุณเลือกได้ว่าจะตอบสนองกับเหตุการณ์นั้นอย่างไร> คุณเลือกได้ว่าจะให้ผู้ครอบข้างมีผลกับความรู้สึกของคุณได้อย่างไร> คุณเลือกที่จะมีอารมณ์ดีหรือแย่ก็ได้>> มันเป็นทางเลือกว่าคุณจะใช้ชีวิตของคุณอย่างไร">> หลายปีต่อมา ฉันได้ข่าวมาว่า เจอร์รี่ได้ทำบางอย่างที่คุณคาดไม่ถึง> ว่ามันจะเกิดขึ้นในธุรกิจการทำร้านอาหาร>> เขาลืมล็อคประตูด้านหลังของร้านในเช้าวันหนึ่ง > และถูกปล้นโดยโจรสามคนที่มีอาวุธ ระหว่างที่เจอร์รี่กำลังพยายามเปิดเซฟ > มือของเขาสั่นเนื่องจากความตื่นเต้น ทำให้เกิดพลาด>> โจรพวกนั้นยิงเขา>> โชคยังดีที่มีคนพบและนำเขาส่งโรงพยาบาลอย่างทันท่วงที > หลังจากการผ่าตัดที่ยาวนานถึง 18 ชั่วโมงและการดูแลรักษา > ในโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด> เจอร์รี่ก็ได้ออกจากโรงพยาบาล พร้อมทั้งเศษกระสุนในร่างกาย>> ฉันพบเจอร์รี่ 6 เดือนหลังจากเหตุการณ์นั้น เมื่อฉันถามว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง>> เขายังคงตอบว่า "ถ้าผมเป็นอะรที่ดีกว่านี้ได้ ผมจะเป็นฝาแฝด > อยากดูแผลเป็นของผมมั้ย">> ฉันตอบปฏิเสธ>> แต่กลับถามเขาถึงสิ่งที่ผ่านเข้ามาในความรู้สึกเขาหลังจากที่โจรพวกนั้นออกไป>> "อย่างแรกที่ผมคิด คือผมไม่ได้ล็อคประตูหลังของร้าน > และหลังจากที่โดนยิง และผมล้มลงบนพื้น ผมก็ยังคงจำได้ว่า > ผมมีสองทางเลือกนี่นา มีชีวิตต่อไปหรือว่าตายเสียในตอนนั้น > ผมเลือกที่จะอยู่ต่อไป">> "คุณไม่กลัวเหรอ" ฉันถาม>> เจอร์รี่เล่าต่อ> "เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยแพทย์ทำหน้าที่อย่างดีมาก > พวกเขาคอยบอกว่าผมจะปลอดภัย แต่เมื่อพวกเขาเข็นผมเข้าไปในห้องฉุกเฉิน > และผมได้เห็นความกดดันบนใบหน้าของหมอและพยาบาล>> ตอนนั้นล่ะที่ผมเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาจริงๆ ในสายตาของพวกเขา > มันเต็มไปด้วยคำพูดที่ว่า ' เขาตายแล้ว ' ผมรู้ทันทีว่าผมต้องทำอะไร > ผมต้องแสดงปฏิกิริยาอะไรซักอย่างให้พวกเขารู้ว่าผมยังอยู่ ">> " คุณทำอย่างไร">> " อืม...มีนางพยาบาลคนนึงตะโกนถามผมว่า ผมแพ้อะไรหรือเปล่า ผมตอบว่า > มี... นางพยาบาลและหมอต่างก็หยุดทำงานรอฟังคำตอบจากผม > ผมหายใจลึกๆและตอบว่า ' กระสุน!'>> หลังจากที่พวกเขาหัวเราะ ผมบอกพวกเขาว่า ผมเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ > โปรดช่วยรักษาผมอย่างคนมีชีวิต> ไม่ใช่คนตาย">> เจอร์รี่ใช้ชีวิตด้วยความรู้สึกขอบคุณความสามารถของหมอ> แต่มันก็เป็นเพราะทัศนคติต่อชีวิตอันแสนจะน่าทึ่งของเขาด้วย > ฉันได้เรียนรู้จากเขาว่า> ทุกๆวันคุณมีทางเลือกของชีวิต คุณเลือกที่จะรักหรือว่าเกลียดชีวิตของคุณเองก็ได้> สิ่งเดียวที่เป็นของคุณจริงๆ และไม่มีใครสามารถนำมันไปจากคุณได้ > ก็คือความคิดและทัศนคติของคุณเอง> เพราะฉะนั้นถ้าคุณสามารถใส่ใจกับมันได้ > อย่างอื่นในชีวิตของคุณก็จะง่ายดายมากขึ้น>