This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

คุณโรเบริ์ต ผู้เขียนหนังสือพ่อรวยสอนลูก

image

การศึกษาเรียนรู้มี 3 แบบคือ

1. การเรียนรู้ทางวิชาการ

2. การเรียนรู้ทางวิชาชีพ

3 .การเรียนรู้ทางด้านการเงิน

การเรียนรู้ทางวิชาการและวิชาชีพ ไม่ได้สร้างความร่ำรวยให้กับ

เรา แต่สามารถให้เรามีงานทำ ทำงานเพื่อเจ้าของกิจการ

การเรียนรู้ทางด้านการเงิน สามารถให้เราสร้างความร่ำรวยได้

ทัศนคติที่แตกต่างระหว่างคนรวยกับคนจน

คนจน มักคิดว่า ฉันคงทำไม่ได้หรอก

คนรวย จะคิดว่า ฉันจะทำมันได้อย่างไร

คนจนมองการลงทุนเป็นความเสี่ยง และยึดกับการมีรายได้ประจำ

ว่ามั่นคง

คนรวยมองหาวิธีการควบคุมความเสี่ยง และคิดว่าการมีรายได้

ประจำไม่มั่นคง เพราะเงินเดือนของเราถูกควบคุมโดยนายจ้าง

หรือหัวหน้างาน ไม่ใช่ ตัวเราเอง

ธุรกิจหนึ่งที่คุณโรเบิร์ตแนะนำสำหรับคนที่มีทัศนคติแบบคนรวย

แต่อาจมีเงินทุนน้อย คือลงทุนเวลา + กับความตั้งใจจริง ใน

ธุรกิจเครือข่าย ซึ่งเราเองรู้สึกดีมาก และคิดว่าตนเองตัดสินใจ

ถูกที่เลือกที่จะลงทุนกับธุรกิจเครือข่ายที่ใช้ระบบการทำงานจากที่

บ้านเป็นแรงขับเคลื่อน ทำให้ธุรกิจเครือข่าย บน เครือข่าย

อินเตอร์เน็ต ทำได้และมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จอย่างสูง

ถ้าต้องการที่จะเปลี่ยน ต้องเริ่มเปลี่ยน

ถ้ากลัวที่จะผิดพลาด คุณจะไม่ได้ทำอะไรเลย

ในโลกของธุรกิจคุณจะต้องเกิดข้อผิดพลาด เรียนรู้ประสบการณ์

จากข้อผิดพลาด

เหมือนเด็กที่หัดเดิน ล้มแล้วลุก แล้วเดินต่อ ไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้ง

ก็จะลุกและเดินต่อ จนสามารถวิ่งได้ในที่สุด ทุก ๆ คนเคยผ่านจุด

นั้นมาแล้ว

ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน และขอขอบคุณที่สละเวลา เข้ามา

เยี่ยมชมเว็ปไซต์ของเรา

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554

คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก The Magic of Thinking Big

คิดใหญ่แล้ว
คุณจะมีชีวิตที่ใหญ่ขึ้น
คุณจะมีชีวิตที่ใหญ่ในด้านของความสุข
คุณจะมีชีวิตที่ใหญ่ในด้านของความสำเร็จใน
หน้าที่การงาน ใหญ่ในด้านของรายได้ ใหญ่ในด้าน
ของเพื่อนฝูงและใหญ่ในการที่จะ
ได้รับการยอมรับ
และยกย่อง

 

 

วิธีที่ 1 ถ้าคุณคิดว่าคุณทำได้ คุณก็จะทำได้

  • คิดว่าต้องสำเร็จ อย่าคิดว่าจะล้มเหลว ความคิดที่เชื่อว่าจะสำเร็จจะควบคุมจิตใจของ
    คุณให้คิดแผนการและกลยุทธ์ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ

 

  • เตือนตัวเองอย่างสม่ำเสมอว่าคุณเก่งกว่าที่คุณคิด

 

  • คิดการใหญ่จะนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ จำไว้ว่าความคิดใหญ่และแผนการใหญ่นั้น
    ปกติจะทำได้ง่ายกว่าความคิดเล็กและแผนการเล็ก

 

วิธีที่ 2 รักษาโรคชอบแก้ตัวของคุณ : โรคแห่งความล้มเหลว

  • รูปแบบที่แย่ที่สุดของการชอบแก้ตัวก็คือ เรื่องสุขภาพ ความเฉลียวฉลาด อายุและโชค

 

  • ศึกษาคนที่ประสบผลสำเร็จอย่างรอบคอบว่าอะไรทำให้เขาประสบผลสำเร็จ แล้วมาใช้
    กับชีวิตคุณเอง

 

  • คนที่ไม่ประสบผลสำเร็จนั้นมักจะป่วยเป็นโรคจิตใจตาย เรียกว่า โรคชอบแก้ตัว
    ความล้มเหลวทุกครั้งจะติดเชื้อของโรคนี้มาก่อนเสมอ และคนโดยทั่วไปมักจะมีเชื้อ
    ของโรคนี้อยู่บ้างไม่มากก็น้อย

วิธีที่ 3 สร้างความเชื่อมั่นในตนเอง และทำลายความหวาดกลัว

  • มองคนอื่นด้วยภาพที่เท่าเทียมกันกับตนเอง

 

  • สร้างทัศนคติในการเข้าใจคนอื่น

 

  • เทคนิคที่คุณควรฝึกในกิจวัตรประจำวันเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคุณเอง เช่น
    นั่งแถวหน้า เพื่อสร้างความมั่นใจ ฝึกสบตาคนอื่น เพื่อที่จะบอกว่า “คุณจริงใจ
    คุณเชื่อมั่นในสิ่งที่กำลังพูดกับคนอื่น คุณไม่กลัว คุณมีความมั่นใจ” เดินให้เร็วขึ้น 25
    เปอร์เซ็นต์ ยืดไหล่ เงยหน้า แล้วคุณจะรู้สึกว่าความมั่นใจตนเองมีมากขึ้น ฝึกพูด
  • แสดงความคิดเห็น ยิ้มกว้าง การยิ้มจะช่วยให้กำลังใจดีขึ้น ยิ้มอย่างเปิดเผย ให้ความ
    มั่นใจแก่คุณ สามารถเอาชนะความกลัว ขจัดความวิตก และเอาชนะความทุกข์โศกได้

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

สรุปวิธีทำให้คุณฉลาดขึ้น

10 วิธีรีเฟรชชีวิต



คร่ำเคร่งกับงานมาทั้งวันอย่าปล่อยให้ร่างกายหมดพลังไปเลยล่ะ เจียดเวลาสักเล็กน้อยลองทำตามวิธีเหล่านี้ดูจะช่วยชาร์จพลังให้ชีวิตคุณได้
• นวดใบหู

นวดบริเวณดังกล่าวประมาณ 5 วินาที สามารถคลายอาการปวดศีรษะและปวดบริเวณต้นคอได้
• ดื่มน้ำมากๆ

ควรจะดื่มน้ำบ่อยๆ แม้ว่าคุณจะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม เพราะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า การที่ร่างกายขาดน้ำจะทำให้คุณดูอิดโรย ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น
• หัวเราะดังๆ

การมีอารมณ์ขันและหัวเราะเสียงดังบ้างเป็นครั้งคราวช่วยกระตุ้นให้คุณได้ใช้พลังงานอย่างเต็มที่

• หายใจให้ลึก

โดยการหายใจลึกๆ ซึ่งจะช่วยให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายได้รับออกซิเจนทั่วถึง
• อาบน้ำร้อนสลับกับน้ำเย็น

อุณหภูมิของน้ำที่เปลี่ยนไป เป็นการกระตุ้นให้คุณรู้สึกตื่นตัว สดชื่น กระปรี้กระเปร่าไปได้ทั้งวัน
• ออกไปโดนแดด

แสงแดดที่ไม่แรงนัก เช่น ในเวลาเช้า ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามิน D และยังกระตุ้นให้มีการหลั่งสารสื่อประสาทบางประเภทในสมอง เช่น ซีโรโตนิน (Serotonin) และ โดพามีน (Dopamine) ซึ่งมีผลในการควบคุมอารมณ์

• ท้าทายสมอง

ลองทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมบ้าง เช่น ลองเปลี่ยนเส้นทางใหม่ระหว่างการไปทำงาน ช่วยฝึกให้สมองได้คิดและมีการพัฒนามากขึ้น

• แอบงีบบ้างไม่ผิด

ถ้ารู้สึกอ่อนล้ามากๆ ลองงีบพักสักครู่จะช่วยให้คุณสดชื่นขึ้น

• ฝึกทักษะให้สมอง

การเรียนรู้ภาษาใหม่ๆหรือการเล่นเกม เช่น หมากรุก จะช่วยพัฒนาสมองและช่วยให้สมองไม่ล้าจากการทำงาน
• สดชื่นเข้าไว้

ข้อนี้สำคัญมากครับ ยิ่งถ้าคุณรู้สึกเบื่อ อ่อนล้า เหนื่อยอ่อน มากเท่าไรก็จะเป็นการดูด พลังงานของคนรอบข้างให้รู้สึกเช่นนั้นไปด้วย อาจจะลองหาที่สงบอยู่กับตัวเองซักพัก เมื่อรู้สึกดีขึ้นโดยอาจจะลองปฎิบัติวิธีที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดแล้วค่อยกลับมาเริ่มงานด้วยความสดชื่นต่อไป

ฝึกสมองให้รู้จักจำ
มีเรื่องให้จัดการเยอะบางทีก็มีเรื่องให้ลืมเป็นธรรมดา แต่...ถ้าเกิดไปลืมเรื่องสำคัญเข้าละก็แย่แน่ๆ วันนี้เรามีวิธีฝึกสมองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจำ รับรองว่าไม่ยาก

นิสัยไม่ดีชอบจ้องจับผิดคนอื่น

 
นิสัยไม่ดีชอบจ้องจับผิดคนอื่น >> มิน่าถึงไม่มีเพื่อนที่ดีเหลือเลยสักคน จับผิดตัวเองดีกว่า สนุกกว่ากันเยอะเลย




ติดเกมงอมแงมเสียการเรียน แต่เลิกไม่ได้ >> พูดท้าทายตัวเอง เช่น "เล่นเกมสนุก แต่ไม่มีสาระ เสียเวลาไปเปล่าๆ ไหนเก่งจริง ลองทำงานหรือเรียนให้สนุกเหมือนเกม ทำได้หรือเปล่า"



ทำสิ่งที่ไม่ดีบางอย่าง >> รู้สึกกังวลและเครียดมากหายใจไม่ทั่วท้องเลย หายใจเข้าออกลึกๆ ให้สุดปอดตลอดทั้งวัน และบอกกับตัวเองว่า "ถ้ามันไม่ร้ายแรงถึงกับตาย เราก็ไม่ต้องไปกลัวไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรารับได้อยู่แล้ว เราแก้ไขปรับปรุงตัวเองได้ สบายมาก"



ทำไมโรงเรียนต้องบังคับนักเรียนชายให้ตัดผมด้วย หมดหล่อเลยเรา เผด็จการชัดๆ >> ลดความหล่อบ้างสักนิดก็ดีนะสาวๆ จะได้ไม่กวน ขอบคุณครับคุณครู ที่ช่วยให้ผมได้เรียนหนังสือเต็มที่กับเขาสักที



เจอพวกชอบโทร(สาธารณะ)นานแทบจะกางมุ้งนอนรอ >> ถ้าไม่กล้าเคาะเตือน ขณะที่เรายืนรอ ลองฝึกสังเกต คนพวกนี้เล่นๆ ก็ได้ สนุกดีนะ เช่น"เจ้าหมอนี่ นุ่งกางเกงยีนส์ปะๆ แต่ว่าซักสะอาด แสดงว่าชอบโชว์ความเก๋า แต่เล็บมือด๊ำดำ ว๊า! หมดท่าเลย สังเกตดูเสื้อสก๊อตสีน้ำเงิน ดูดีๆ ตะเข็บเย็บไม่ประณีต สงสัยจะเป็นเสื้อโหล ชอบยืนพิงตู้โทรคุยแบบนี้ น่าจะเป็นคนขี้เกียจนะ นั่นๆ มีสมุดเรียนเหน็บที่กระเป๋าหลัง อ๋อ! เรียนอยู่สถาบันนี้เอง เป็นต้น



เป็นคนขึ้อายมากเวลาคุยกับใครจะม้วนไปม้วนมา >> เป็นเฉพาะเวลาคุยกับหนุ่มๆ ใช่ไหม ให้คิดว่าเขาเป็นลูกชายคนโตของเรา แม่รู้สึกยังไงกับลูกล่ะ เอ็นดูใช่ไหม สงสารใช่ไหม ให้มีเมตตากรุณาต่อผู้ชายทุกคนที่คุยด้วย แต่ไม่หวั่นไหวกับใครง่ายๆ ความอายจะหายไป