This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

จงมีชีวิตอยู่กับวันนี้เท่านั้น!

อดีตทำให้มีปัจจุบัน และปัจจุบันจะก่อให้เกิดอนาคตแต่ปัจจุบันจะสำคัญไปได้อย่างไร หากเรายังยึดติดกับอดีตและพึ่งหวังเพียงอนาคตคนเราทุกคนมีทั้งอดีตที่น่าจดจำ และไม่น่าพิศมัยด้วยกันทุกคนแต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อมนุษย์ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วได้...อดีตแค่สอนบทเรียน และเป็นเพียงความทรงจำที่ดีเรา...อยู่กับวันนี้ ...มีชีวิตอยู่ได้แค่ตอนนี้เท่านั้น...เพราะชีวิตคนมันไม่แน่นอน จู่ๆเราอาจโดนรถชนตายไปโดยไม่คาดฝันก็เป็นได้แล้วเราจะหวังพึ่งอะไรได้กับอนาคตหากเราไม่ดูแลปัจจุบันให้ดีดังนั้นเราน่าจะทำ...วันนี้...ให้มีความหมายมากที่สุดไม่ใช่หรือ?สนุกกับเวลานี้...ร้องไห้เฉพาะวันนี้...แล้วเข้มแข็งขึ้นเพื่ออนาคตในวันข้างหน้าที่มา : หนังสือ How to Stop Worrying and Start Living : หยุดวิตกกังวล และ อยู่อย่างมีความสุข : หัวข้อเรื่อง จงมีชีวิตอยู่กับวันนี้เท่านั้น!

วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การตำหนิติเตียน วิธีชนะมิตรและจูงใจคน ของ เดล คาร์เนกี

บทที่ 1 การตำหนิติเตียน
- 99 ครั้งใน 100 ครั้งแห่งความผิดของมนุษย์ เขาจะไม่ตำหนิติเตียนตนเองแต่อย่างใด แม้ความผิดพลาดนั้นจะ ร้ายแรงสักขนาดไหนก็ตาม- การตำหนิติเตียน เป็นสิ่งไร้ประโยชน์ เพราะจำต้องทำให้ผู้ถูกติเตียนแก้ตัวต่างๆ และพยายามที่จะเข้าข้างตนเอง การตำหนิติเตียนเป็นภัย เพราะมันสามารถทำให้จิตใจอันภาคภูมิของมนุษย์ได้รับความปวดร้าว ทำลายความรู้สึกแห่งการเป็นคนมีความสำคัญ และก่อให้เกิดโทสะ- ก่อนที่จะตำหนิติเตียนผู้อื่น แก้ไขวิพากวิจารณ์ผู้อื่น จงแก้ไขตัวของเราเองให้เรียบร้อยเสียก่อน- ในการติดต่อกับบุคคลทั่วๆไป เราจงจำไว้เสมอว่าเรามิได้ติดต่อกับบุคคลที่เพียบพร้อมด้วยเหตุผล แต่เราติดต่อกับบุคคลซึ่งเต็มไปด้วยความ ผันแปรแห่งอารมณ์ และห้อมล้อมอยู่ด้วยอคติ และจิตใจคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลาด้วยความหยิ่งทะนะ และทิฐิ- "ข้าพเจ้าจะไม่กล่าวร้ายต่อผู้ใด จะกล่าวเฉพาะแต่ความดีเท่าที่ข้าพเจ้ารู้ของมนุษย์ทุกคน"- ควบคุมตนเอง-เข้าใจผู้อื่น-ยินดีให้อภัย ค้นหาความจริงว่าทำไมเขาจึงได้กระทำลงไปอย่างที่เขาได้กระทำ การเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง คือ การให้อภัยทุกสิ่งทุกอย่าง- ทำไม? เราจึงจะด่วนตัดสินผู้อื่นเร็วจนเกินไปเล่า
บทที่ 2 เคล็ดลับที่ยิ่งใหญ่ในการติดต่อกับผู้อื่น- มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้ใครต่อใครทำทุกสิ่งทุกอย่าง ท่านเคยหยุดคิดเรื่องนี้บ้างไหม? ถูกแล้ว มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น และนั่นคือ การทำให้บุคคลผู้นั้น "ต้องการ" ที่จะทำ โปรดจำไว้ ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว- มีอยู่ไม่กี่อย่างที่เรามนุษย์ธรรมดา มีความกระหายอยากได้ด้วยหัวใจที่จดจ่อ นั่นคือ มีสุขภาพสมบูรณ์อายุยืน อาหาร นอนหลับ เงินและ สิ่งซึ่งจะซื้อได้ ความสุขในอนาคต ความเกษมสำราญในกามรมณ์ ลูกได้รับความสุขสวัสดี และความรู้สึกเป็นคนสำคัญ- ความปรารถนาเพื่อจะเกิดความรู้สึกว่าเป็นคนสำคัญ เป็นสิ่งแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างมนุษย์ กับสัตว์เดียรัจฉาน- วิธีที่จะส่งวเสริมให้เขาเหล่านั้น ซึ่งอาจจะเป็นผู้ร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา ให้เขามีความขยันหมั่นเพียรอย่างสูงสุด ก็คือ การยกย่องสรรเสริญและให้กำลังใจ- ไม่มีสิ่งใดจะทำลายความทะเยอทะยานของผู้น้อย ยิ่งไปกว่าการตำหนิติเตียนจากหัวหน้า- การยกย่องทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ส่วนการเยินยอทำด้วยความไม่สุจริตใจ อย่างหนึ่งออกมาจากหัวใจ อีกอย่างหนึ่งออกมาจากไรฟัน อย่างหนึ่งปราศจากการเห็นแก่ตัว อีกอย่างหนึ่งเต็มด้วยการเห็นแก่ตัว อย่างหนึ่งให้โทษมหันต์- เลิกคิดถึงความคิดวิเศษวิโสของเรา ความต้องการโน่นนี่ของเรา เราจงมาคิดถึงความดีประการต่างๆของผู้อื่นบ้าง แต่อย่าได้ใช้คำเยินยอ ในการชมเชยเป็นอันขาด หากจงใช้ คำยกย่องสรรเสริญด้วยความจริงใจและสุจริต คำพูดของท่านจะฝังอยู่ในความทรงจำและเป็นสมบัติ อันล้ำค่าแก่อีกฝ่ายหนึ่งนานเท่านานจนตลอดชีวิต จะดำรงอยู่ให้เขาระลึกถึงมันเสมอเป็นเวลาหลายปี แม้ว่าท่านเองอาจจะลืมเสียสิ้นแล้ว
บทที่ 3 จงปลุกความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่งให้เกิดความต้องการอย่างแรงกล้า- การชักจูงความประพฤติของมนุษย์ สิ่งแรก จงปลุกความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่งให้เกิดความต้องการอย่างแรงกล้า ผู้ที่สามารถทำได้เช่นนี้ โลกทั้งโลกอยู่ข้างเขา ผู้ที่ทำไม่ได้ จะเดินไปตามหนทางอันอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว- วันพรุ่งนี้ ท่านอาจจะต้องการให้ใครสักคนหนึ่งทำการบางอย่าง ก่อนท่านจะกล่าวคำพูดออกมา ท่านจงหยุด ถามตนเอง "ฉันจะปฏิบัติอย่างไรจึงจะทำให้เขาต้องการทำตามที่ฉันชักจูง?" คำถามนี้จะช่วยให้เรายั้งคิดแทนการผลีผลามไปพูดกับใครๆ ถึงความต้องการของเรา โดยปราศจากผล- "ถ้ามีเคล็ดลับอย่างใดอย่างหนึ่งส่งเสริมให้ไปสู่ความสำเร็จ เคล็ดลับอันนั้นก็คือความสามารถเข้าใจในแง่คิดเห็น ของอีกฝ่ายหนึ่ง และความสามารถมองสิ่งต่างๆในมุมของเขาได้ดีเท่าๆกับมุมของท่านเอง"

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Lub Hli Tawm Hmo No

Hmo nov lub hli nra nra tab sis tsis muaj koj nyob ntawm kuv ib sab...Kuv lub siab nyob tsis qab vim nco txog wb kev hlub yav tas...
Txhua hmo hli nra yav tas wb yeej sib puag nyob ua ke...
Wb yeej nyob sib sib ze xav tias wb yuav nyob li nov mus ib sim...
Sov siab zim rau wb me kev nkauj nraug uas xav tias yuav tsis paub xaus...Yuav npaj lub neej laus tsheej cuab ciaj yim no na kuv me nkauj muam...Yog vim li cas ib sij huam wb cia li sib ncaim mus lawm...Txoj kev txwj nkawm thiaj tau muab tso tseg rau hmo hli nra...Hmo hli nra yav tas thiaj tseem nyob nruj nraim kuv nruab siab...Hmo hli nra puas tseem nyob nrog koj thiab tus neeg kuv hlub tshua...Wb tau nqua ib zaj lus tseg tias...HMO TWG HLI NRA KOM WB TIG NTSIA LUB HLI...TXAWM LUB NTIAJ TEB YUAV TIG MUAB WB SIB FAIB NYOB LEEG SAB NTUJ...WB OB TUG NTSUJ PLIG YUAV YUJ XEEB LIA TUAJ SIB CUAG SAUM LUB HLI...SAUM TUS DUAB CI RAU HMO HLI NRA...!Hmo nov lub hli twb nra nra kuv tus ntsuj plig twb mus tos koj saum lub hli...Ua li koj ni koj tus ntsuj plig puas tuaj nrhiav kuv saum lub hli thiab...Hmo nov kuv qhov muag ntsia lub hli ci ntsa iab tab sis kuv pom koj tus ntsuj duab nyob tuaj kuv nruab siab os tus me neeg kuv hlub tshua...!